พ้นกลางปีล่วงเลยเข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้ งานก็แยะ วันลาก็หมด ส่วนวันหยุดยาวก็ไม่ค่อยจะมี แต่เมื่อร่างกายเรียกร้องหาอากาศบริสุทธิ์และการพักผ่อน สุดสัปดาห์นี้จึงต้องเตรียมออกเดินทางอีกครั้ง โดยทริปนี้เราจึงเลือกการเดินทางใกล้ ๆ ไม่ไกลกรุงเทพนัก อย่างที่ “แสมสาร” แบบที่ไม่ต้องลางานก็ไปเที่ยวได้
ทริปนี้เราเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เย็นวันศุกร์ เลิกงานปุ๊บเด้งปั๊บเลย โดยเราได้ทำการหาจองที่พักใกล้ท่าเรือที่ วราสิน รีสอร์ท ไว้ล่วงหน้ากับ Traveloka เรียบร้อยก่อนเดินทางแล้ว ที่สำคัญข้อดีของการจองล่วงหน้าคือมั่นใจได้ว่ามีที่พักชัวร์ ๆ แถมยังได้เช็คโปรโมชั่นและส่วนลดของที่พักก่อนด้วย ทำให้ได้ที่พักที่ถูกใจในราคาที่ดีที่สุด
จองราคาที่พักในแสมสารกับ Traveloka คลิกเลย
ขับรถออกจากกรุงเทพมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) ไปจนสุดทางแล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 331 มุ่งหน้าอำเภอสัตหีบ พอเริ่มเข้าเขตตัวเมืองสัตหีบก็ล่วงเลยเวลามาจนค่ำ พระอาทิตย์ตกดินฟ้าเริ่มมืด ท้องก็เริ่มร้อง ขับรถตรงมาจนถึงกิโลเมตรที่ 128 กลับรถแล้วเลี้ยวเข้าเส้นเขาชีจรรย์ เพื่อแวะหามื้อเย็นทานที่ ไร่องุ่น Silverlake นั่งชมวิวและแสงไฟสลัวยามค่ำคืนของไร่องุ่น พร้อมละเมียดทานอาหารอิตาเลี่ยนชิลล์จนล่วงเลยเวลา ก็รีบคิดเงินแล้วออกเดินทางต่อไป มุ่งหน้าไป Check In เข้าที่พักของเราที่ วราสิน รีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านช่องแสมสาร ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอสัตหีบ มาดูที่พักที่เราเลือกสำหรับทริปนี้กันก่อนเลย
วราสิน รีสอร์ท
● ราคาเริ่มต้น 1,900 บาทต่อคืน
● จองที่พักวราสิน รีสอร์ท กับ Traveloka
บ้านพักเป็นหลัง ๆ แบบบีชบังกะโลสีเหลืองสดใส หลังคามุงจาก ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ อย่างเฟอร์นิเจอร์ไม้ สไตล์ Modern – Loft ที่ทั้งเรียบหรู อบอุ่นสบาย และเป็นส่วนตัวสุด ๆ บรรยากาศล้อม ๆ ที่พักก็ร่มรืนย์เขียวขจี เหมาะแก่การมาพักผ่อน แถมยังมีสระว่ายน้ำอีกด้วย
เมื่อเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ท้องก็อิ่มแล้ว นั่งเม้าท์กันต่อนิดหน่อยด้านหน้าห้องพัก กินลมกินบรรยากาศชิลล์ ๆ สักพักก็ไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เรามีภารกิจที่ต้องตื่นกันแต่เช้า และนี่คือเหตุผลที่เราต้องมานอนค้าง stand by ก่อน 1 คืนด้วย
Day 2 : เกาะแสมสาร
วันนี้เราตื่นกันตั้งแต่ตี 5 แล้วรีบจัดการภารกิจส่วนตัวด่วน ๆ และออกจากที่พักก่อน 05:30 น. เพื่อบึ่งรถไปให้ถึงพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ก่อน 6 โมงเช้า เพื่อไปรับบัตรคิว เพราะเกาะแสมสารจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะเพียงวันละ 500 คน และเริ่มจำหน่ายตั๋วเรือไปเกาะแสมสารเวลา 8 โมง มีเที่ยวเรือไปเกาะทั้งหมด 5 เที่ยว เที่ยวแรกออก 09.00 น. เที่ยวสุดท้าย 16.30 น.
โดยนักท่องเที่ยวต้องมาเตรียมตัวรอเรือที่ท่าก่อนเวลาเรืออกครึ่งชั่วโมง เราโชคดีได้เรือรอบแรกตอน 09.00 น. ซื้อตั๋วเสร็จ หาซื้อกาแฟทานที่ร้านค้าสวัสดิการทหารเรือสักพักก็เดินไปรอเรือที่ท่าเทียบเรือหมาจอ เรือใช้เวลาเดินทางไปเกาะเพียง 10 นาที
เมื่อถึงเกาะแล้วนักท่องเที่ยวต้องเข้าฟังบรรยายจากเจ้าหน้าที่ก่อน แล้วจึงแยกย้ายกันไปเที่ยวและทำกิจกรรมรอบเกาะได้ โดยบนเกาะแสมสารมีหาดทั้งหมด 5 หาด คือ หาดเทียน หาดแหลมฝรั่ง หากเตย หากกรวด และหาดลูกลม แต่สามารถลงเล่นน้ำได้เพียง 2 หาด คือ หาดเทียน และหาดลูกลม ส่วนกิจกรรมบนเกาะมีทั้งทางน้ำ และทางบก อาทิ การปั่นจักรยานรอบเกาะ นั่งเรือท้องกระจกดูปะการัง ดำน้ำตื้นดูปะการัง พาเรือคายัค ก๊วนของพวกเราเลือกขึ้นรถทหารที่เวียนรับส่งทั่วเกาะ ไปเยี่ยมชมรอบ ๆ เกาะให้ครบทุกหาด แล้วไปเดินป่าสำรวจทัศนียภาพรอบเกาะจนถึงจุดชมวิวบนยอดเขา หยุดชมและวิวถ่ายรูปจากมุมสูง นั่งพักเหนื่อยทอดสายตามองวิวสวย ๆ ของท้องฟ้าและน้ำทะเล นั่งชิลล์กันจนหายเหนื่อยแล้ว ก็เดินทอดน่องกลับลงมาที่หาดลูกลม
มื้อกลางวันเราซื้ออาหารจากร้านค้าบนเกาะทาน เมื่อเติมพลังกันเสร็จแล้ว ก็พากันไปเล่นน้ำ พายเรือ ดำ snorkel ดูปลาการ์ตูน และชมปะการัง จนมื้อเที่ยงที่ทานไปย่อยหมดไม่เหลือ และก็หมดพลัง พวกเราเลิกกลับเรือรอบก่อนสุดท้ายเที่ยวบ่ายสามโมง ไม่ให้เย็นมากนัก จะได้กลับไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำของโรงแรม และพักนอนกินลม ชมคลื่นชิลล์ ส่วนมื้อเย็นเราแวะซื้ออาหารแถวตลาดช่องแสมสารทั้งของสด และอาหารสำเร็จรูปกลับมาทานที่ที่พัก
Day 3 : ช่องแสมสาร
วันสุดท้ายของทริปนี้ หลังจาก Check Out ออกจากที่พักแล้ว เราก็ตะลอนเที่ยวในบริเวณช่องแสมสารและสัตหีบกันต่อ โดยเริ่มแวะที่ใกล้ที่สุดอย่างศูนย์อนุรักษ์พันธ์เต่าทะเล ซึ่งอยู่ในพื้นที่กองทัพเรือ เพลินไปกับเต่าทะเลแล้วยังไม่หายฟินกับเหล่าสัตว์โลกก็เลยไปต่อกันที่ เพอคูล่าฟาร์ม ฟาร์มปลาการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่นี่มีปลาการ์ตูนทั้งน้อย ใหญ่เยอะแยะไปหมด น่ารักสุด ๆ กันไปเลย ดูแล้วก็อยากเอากลับไปเลี้ยงที่บ้าน แต่ท่าจะไม่รอดสงสารน้องนีโม่ เลย Bye Idea ไว้ตรงนี้ดีกว่า ฟินกับเหล่านีโม่ทั้งหลายกันแล้ว ท้องก็เริ่มร้อง แวะร้านอาหารทานมื้อเที่ยงกันก่อน ก่อนจะ Say Good Bye ช่องแสมสารกันไป เราก็พากันไปนมัสการ หลวงพ่อดำ วัดช่องแสมสาร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชุมชนช่องแสมสาร ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาเจดีย์ นอกจากความวิจิตรงดงามของตัวโบสถ์และลวดลายแกะสลักแล้ว วิวรอบตัววัดก็สวยงามไม่แพ้กันด้วยที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงล้อมรอบด้วยวิวทะเลสัตหีบ
ทริปสั้น ๆ ใกล้ ๆ แบบไม่ต้องลางานก็เที่ยวได้อย่างนี้แล้ว ใครที่กำลังต้องการ Vitamin SEA ช่วยให้หายเครียดละก็ เตรียมหาเวลาว่าง และจองที่พักกันได้เลย ถ้ายังไม่มีไอเดียเรื่องที่พัก ง่าย ๆ เพียงให้ Traveloka ซึ่งรวบรวมที่พักทั้งหมดในแสมสารไว้ให้คุณแล้ว เพียงแค่นี้ก็เตรียมเช็คสภาพรถให้พร้อมออกเดินทาง แล้วออกไปผจญภัยกันได้เลย